ประกันสุขภาพ AIA
ให้การดูแลสุขภาพของคุณเป็นเรื่องง่ายและไร้กังวล ด้วยประกันสุขภาพจาก AIA ที่คุ้มครองครอบคลุมทั้งค่ารักษาพยาบาลและโรคร้ายแรง ให้คุณมั่นใจได้ในทุกสถานการณ์ ไม่ว่าคุณจะเผชิญกับความเจ็บป่วยเล็กน้อยหรือเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เราพร้อมอยู่เคียงข้างคุณทุกก้าว เลือกแผนที่เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของคุณ และเริ่มต้นชีวิตที่มั่นคงวันนี้กับ AIA
ประกันสุขภาพซื้อเร็วคือกำไร อายุน้อย เบี้ยยิ่งถูก และถ้าอยากมี Wealth ต้องมี Health ที่ดีเสียก่อน ปกป้องฐานแรกให้มีความมั่นคง ก่อนจะเข้าสู่ปิรามิดทางการเงินในชั้นที่ 1 และชั้นที่ 2
ดาวน์โหลดโบรชัวร์ประกันสุขภาพของ AIA
ควรตั้งงบทำประกันสุขภาพเท่าไรดี?
ขั้นตอนที่ 1 ตรวจสอบสวัสดิการที่มี ณ ปัจจุบัน
โดยทั่วไปแล้วเรามักจะมีสวัสดิการเรื่องการรักษาพยาบาลติดตัวอยู่บ้าง ขั้นตอนแรกเราต้องกลับมาตรวจดูที่ตัวเราก่อนว่า ณ ปัจจุบันเรามีสวัสดิการอยู่ที่ไหนและเท่าไรบ้าง ไม่ว่าจะเป็นประกันกลุ่ม ประกันสังคม บัตรทอง รวมถึงประกันสุขภาพเล่มที่มีอยู่ และมีผลบังคับใช้อยู่ ณ ปัจจุบัน
ขั้นตอนที่ 2 สำรวจว่าเราต้องการความคุ้มครองเท่าไร
จากนั้นให้ลองคิดดูว่าถ้าหากเจอเรื่องด่วนที่เราต้องแอดมิทเข้ารักษาตัวโรงพยาบาล เราจะเข้ารักษาที่โรงพยาบาลไหนเป็นหลัก แล้วลองตรวจสอบว่าค่ารักษาพยาบาลมีอัตราประมาณเท่าไร ทั้งค่าห้องและค่ารักษาพยาบาลในโรคทั่วไปรวมถึงโรคร้ายแรง เพื่อที่จะประเมินค่าใช้จ่ายคร่าว ๆ ได้
ขั้นตอนที่ 3 หาส่วนต่างระหว่างข้อ 1 และข้อ 2
เมื่อเรารู้แล้วว่าเรามีสวัสดิการเท่าไร และความต้องการของเราเป็นอย่างไร เราก็จะเห็น “ส่วนต่าง” ที่เกิดขึ้น จากนั้น เราก็จะพอทราบตัวเลขคร่าว ๆ ว่าควรทำประกันสุขภาพในวงเงินเท่าไรเพื่อให้ครอบคลุมส่วนต่างตรงนี้ เช่น ในหมวดค่าห้องบางคนอาจจะมีประกันกลุ่มอยู่แล้วบางส่วน ก็มาดูต่อว่ายังขาดอีกเท่าไรจึงจะครอบคลุมค่าห้องได้ทั้งหมด เป็นต้น ซึ่งเราควรคำนวณเผื่อไว้สักเล็กน้อยสำหรับอัตราค่ารักษาที่อาจเพิ่มขึ้นตามภาวะเงินเฟ้อในอนาคตด้วย
ขั้นตอนที่ 4 พิจารณาค่าเบี้ยประกันภัยที่เหมาะสม
เมื่อเราทราบวงเงินและความคุ้มครองที่ต้องการแล้ว ก็ต้องนำมาพิจารณาร่วมกับค่าเบี้ยประกันภัย เพราะแต่ละคนก็มีรายได้ รวมถึงภาระค่าใช้จ่ายที่แตกต่างกัน โดยอาจกำหนดงบประมาณในการทำประกันสุขภาพเบื้องต้นไว้ที่ประมาณ 10% ของรายได้ต่อปี เพื่อให้สามารถจ่ายได้ไหวในระยะยาว และไม่เป็นภาระที่หนักจนเกินไป ทั้งนี้อาจปรับเพิ่มหรือลดลงได้ตามวัตถุประสงค์ในการทำประกันและความจำเป็นของแต่ละคนค่ะ
ประกันสุขภาพลดหย่อนภาษีได้เท่าไหร่?
- ประกันสุขภาพตนเอง ลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 25,000 บาท เมื่อรวมค่าลดหย่อนกับเบี้ยประกันชีวิตทั่วไปแล้วต้องไม่เกิน 100,000 บาท
- ประกันสุขภาพพ่อแม่ ลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 15,000 บาท (พ่อแม่ทุกคนรวมกัน ลดหย่อนสูงสุด 15,000 บาท) หากแบ่งจ่ายเบี้ยประกันร่วมกับพี่น้อง การคำนวณคือ พี่น้องทุกคนสามารถยื่นลดหย่อนภาษีได้ โดยจะต้องหารเฉลี่ยค่าเบี้ยประกันเท่าๆกัน เช่น พี่น้อง 2 คน จ่ายเบี้ยประกันไป 15,000 บาท จะสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้คนละ 7,500 บาท ทั้งนี้มีเงื่อนไขว่าพ่อแม่ของตนเองต้องมีรายได้รวมกันไม่เกิน 30,000 บาทต่อปี และตนเป็นลูกตามกฎหมายของพ่อแม่ (ต้องไม่เป็นลูกบุญธรรม)
- ประกันสุขภาพพ่อแม่คู่สมรส เฉพาะกรณีที่คู่สมรสไม่มีรายได้ และพ่อแม่ของผู้สมรสมีรายได้รวมกันไม่เกิน 30,000 บาทต่อปี ลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 15,000 บาท (พ่อแม่ทุกคนรวมกัน ลดหย่อนสูงสุด 15,000 บาท)
สิ่งที่ต้องรู้เกี่ยวกับการซื้อประกันสุขภาพ
- ประกันสุขภาพไม่สามารถซื้อเดี่ยวได้ เนื่องจากประกันสุขภาพถือเป็นสัญญาเพิ่มเติม จึงต้องทำแนบกับประกันชีวิตที่เป็นสัญญาหลักด้วย ยกเว้นประกัน AIA CI ProCare ที่เป็นสัญญาหลักคุ้มครองโรคร้ายแรง ชำระเบี้ยแบบคงที่ 20 ปี
- ลูกค้าจะยังไม่สามารถเรียกร้องสินไหมได้ หากยังไม่ครบกำหนดระยะเวลารอคอย (Waiting Period) โดยสำหรับการเจ็บป่วยทั่วไปจะมีระยะเวลารอคอย 30 วัน โดยเริ่มนับวันที่ในสัญญาเป็นวันที่ 1 และจะเริ่มคุ้มครองในวันที่ 31 สำหรับโรคเรื้อรังบางโรคอาจจะมีระยะเวลารอคอยถึง 60-180 วัน
- ประกันสุขภาพไม่ได้คุ้มครองทุกโรค ซึ่งโรคที่ยกเว้น ได้แก่
- โรคที่เป็นมาก่อนทำประกัน
- โรคที่ต้องการรักษาอย่างต่อเนื่อง อาทิ เบาหวาน (ระดับน้ำตาล มากกว่า 150 หรือ เป็นเบาหวานที่ต้องฉีดอินซูลีน) , ความดันโลหิต (ความดันบนเกิน 170 หรือ ความดันล่างเกิน 100) , ภูมิแพ้ตัวเอง, โรคเก๊าท์, โรคไขมัน (ไตรกลีเซอร์ไรด์ มากกว่า 300) เป็นต้น
- การตรวจสุขภาพ
- การรักษาที่เกี่ยวกับการเสริมสวยหรือความสวยความงาม
- การร้องขอเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลโดยไม่มีความจำเป็นทางการแพทย์
- การรักษาที่เกี่ยวกับความเครียดหรือทางจิตเวช
- การรักษาภาวะเกี่ยวกับการนอนหลับ เป็นต้น
- ลูกค้าสามารถใช้สิทธิ์ Cashless Claim โดยไม่ต้องสำรองจ่ายได้ ก็ต่อเมื่อครบกำหนดระยะเวลารอคอยแล้ว แต่หากลูกค้าเจ็บป่วยด้วยโรคร้ายแรง หรือ เรื้อรัง ในช่วงที่กรมธรรม์อายุยังไม่ถึง 2 ปี อาจจะยังต้องสำรองจ่ายเนื่องจากบริษัทจำเป็นต้องใช้เวลาในการรวบรวมเอกสารและตรวจสอบว่าโรคที่เป็นเป็นมาก่อนทำประกันหรือไม่ หากไม่มีประวัติเป็นมาก่อนทำประกันก็สามารถเคลมได้ปกติ
- ผู้ที่มีโรคประจำตัว เคยป่วยหรือเคยผ่าตัดแล้ว สามารถสมัครทำประกันสุขภาพได้ เพียงแต่อาจจะมีเงื่อนไขข้อยกเว้นพิเศษ หรืออาจต้องมีการปรับเพิ่มเบี้ยมากกว่าลูกค้าที่สุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์ดีทั่วไป เนื่องจากลูกค้ามีระดับความเสี่ยงที่สูงกว่า
วางแผนการเงินฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย