ประกันชีวิตควบการลงทุน ยูนิต ลิงค์ (Unit Linked)
UDR หรือ Unit Linked (ยูนิต ลิงค์) คืออะไร?
- Unit Linked ย่อมาจาก Unit Linked Insurance Policy (ULIP) หรือเรียกอีกอย่างว่าประกันชีวิตควบการลงทุน คือการทำประกันเพื่อคุ้มครองชีวิต พร้อมกับการลงทุนในกองทุนรวมในกรมธรรม์เดียวกัน
- ผู้ถือกรมธรรม์จัดสรรเองได้ตามวัตถุประสงค์และความเสี่ยงที่ยอมรับได้ ต่างจากเดิมที่บริษัทประกันเป็นผู้นำเงินไปลงทุนในแบบความเสี่ยงต่ำ ตามข้อกำหนดของสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) จุดนี้ทำให้ประกัน Unit Linked มีโอกาสรับผลตอบแทนที่ดีขึ้นกว่าประกันชีวิตแบบเดิมในระยะยาว
- ความยืดหยุ่นสูงกว่าประกันชีวิตทั่วไป เพราะประกัน Unit Linked เป็นการทำประกันควบการลงทุน ซึ่งผู้ถือกรมธรรม์สามารถปรับเปลี่ยนได้ทั้งในแง่ของความคุ้มครองชีวิตและการลงทุน กล่าวคือ ในด้านความคุ้มครอง ผู้ถือกรมธรรม์สามารถปรับเพิ่มหรือลดทุนประกันได้ตามต้องการ เช่น ลดความคุ้มครองลงเมื่ออายุมากขึ้นและมีสินทรัพย์มากพอ สามารถหยุดชำระเบี้ยประกัน หรือจะถอนเงินจากหน่วยลงทุน ก็ยังได้รับความคุ้มครอง หากมีเงินลงทุนสะสมไว้เพียงพอสำหรับนำมาจ่ายเบี้ยประกันต่อไป
- สามารถเลือกรูปแบบการลงทุนได้ตามต้องการ ปรับสัดส่วนสินทรัพย์ เพิ่มลดความเสี่ยงได้ตามจังหวะของชีวิต เช่น เมื่อเริ่มต้นทำประกันตอนอายุยังน้อย ก็สามารถรับความเสี่ยงได้มาก ต่อมาเมื่ออายุมากขึ้น ก็ปรับเปลี่ยนมาลงทุนในสินทรัพย์ที่ความเสี่ยงต่ำ เพื่อรักษาเงินต้นและผลกำไรจากการลงทุนที่ผ่านมา
- ความโปร่งใส ตรวจสอบได้ กรมธรรม์ของประกัน Unit Linked จะแสดงค่าใช้จ่ายทั้งหมดในกรมธรรม์ปีนั้นๆ ให้ผู้ถือกรมธรรม์ทราบ ทั้งต้นทุนค่าประกันชีวิต (Cost Of Insurance : COI) ค่าธรรมเนียมในการรักษากรมธรรม์ ค่านายหน้าของกรมธรรม์ (Commission) และค่าใช้จ่ายในการลงทุน ทำให้เห็นเงินลงทุนสุทธิหลังหักค่าใช้จ่ายและเบี้ยประกัน โดยเฉพาะในปีแรกที่ทำประกันจะมีค่าใช้จ่ายสูงกว่าปีอื่นๆ ก็จะแสดงรายการต่างๆ เอาไว้ตามจริง
UDR หรือ Unit Linked (ยูนิต ลิงค์) เหมาะกับใคร?
- ผู้ที่ต้องการทั้งความคุ้มครองชีวิต และเพิ่มโอกาสในการได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนที่สูงกว่าแบบประกันชีวิตทั่วไป ด้วยการลงทุนในกองทุนรวมซึ่งบริหารโดยบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) รวมทั้งสามารถยอมรับความเสี่ยงจากการลงทุนได้ในขณะเดียวกัน ประกันชีวิตในลักษณะนี้จึงให้ทั้งความมั่นคงและมั่งคั่งภายในกรมธรรม์เดียว โดยผู้เอาประกันภัยสามารถเลือกรูปแบบการลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ผู้เอาประกันภัยสามารถรับได้
- ทั้งนี้ Unit Linked (ยูนิต ลิงค์) จะให้ผลตอบแทนได้ดีที่สุดเมื่อมีการชำระเบี้ยกรรมธรรม์ครบ 20 ปี ตามหลักการลงทุนที่ดีต้องอาศัยระยะเวลาที่นานพอ (ลงทุนระยะยาว ลงทุนสม่ำเสมอ กระจายการลงทุน) จากนั้นสามารถหยุดชำระเบี้ย และให้มูลค่าหน่วยลงทุนทำงานต่อในการชำระค่าธรรมเนียมต่างๆ โดยให้ความคุ้มครองไปจนถึงอายุ 99 แม่แอ้จึงขอแนะนำว่าผู้ที่เลือกแผนประกันชีวิตควบการลงทุน (ยูนิต ลิงค์) หากเป็นมนุษย์เงินเดือนควรมีอายุไม่เกิน 40 ปี สำหรับฝ่ายชาย เพื่อให้สามารถชำระเบี้ยได้จนถึงอายุเกษียณ 60 ปี และสำหรับฝ่ายหญิงคือควรมีอายุไม่เกิน 35 ปี เพื่อให้สามารถชำระเบี้ยได้จนถึงอายุเกษียณ 55 ปี แต่ถ้าเป็นเจ้าของกิจการ หรือทำงานอิสระ เรื่องอายุก็ไม่ใช่ข้อจำกัดค่ะ
ข้อดีของ UDR หรือ Unit Linked (ยูนิต ลิงค์)
- ไม่ใช่เบี้ยจ่ายทิ้ง ค่าเบี้ยทั้งหมดหลังหักค่าธรรมเนียมจะนำไปลงทุนในกองทุนรวม สร้างโอกาสได้ผลตอบแทนให้กับเจ้าของกรรมธรรม์ (เลือกกองทุนได้ตามระดับความเสี่ยง และสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสม)
- เบี้ยประกันภัยคงที่ตลอดสัญญา
- จ่ายเบี้ยรวมน้อยกว่าในระยะยาว ประหยัดได้เป็นแสน-หลักล้าน
- ใช้วางแผนค่าใช้จ่ายเรื่องเบี้ยประกันภัยในระยะยาวได้เป็นอย่างดี
- วางแผนหยุดจ่ายเบี้ยได้ หรือถอนเงินออกมาใช้ยามฉุกเฉิน โดยใช้ผลตอบแทนจากการลงทุนมาจ่ายค่าเบี้ยให้แทน และยังได้รับความคุ้มครองตามอายุที่กำหนด
- มีแผนที่คุ้มครองผู้จ่ายเบี้ยประกัน กรณีทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง ไม่สามารถชำระเบี้ยประกันได้ บริษัทจะจ่ายผลประโยชน์เท่ากับเงินเอาประกันภัย โดยกรรมธรรม์จะยังมีผลบังคับต่อไป ตามข้อกำหนดและเงื่อนไขของกรมธรรม์
- สร้างวินัยทางการเงินในการออมเงินแบบเดียวกับการทำ DCA ซึ่งเป็นการกระจายความเสี่ยงของเงินที่อาจสูญเสียไปในอนาคตและยังเพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนที่สูงกว่า
- ต่ออายุรับประกันภัยสัญญาเพิ่มเติม UDR หรือ Unit Linked (ยูนิต ลิงค์) โดยอัตโนมัติ ตราบเท่าที่มูลค่าหน่วยลงทุนในกรมธรรม์ เพียงพอที่จะนำไปหักค่าใช้จ่าย
- กรณีเสียชีวิตจะได้รับเงินเอาประกันภัยหลัก + มูลค่ารับซื้อคืนหน่วยลงทุน (หากเป็นประกันทั่วไปจะได้รับเพียงเงินเอาประกันภัยหลักเท่านั้น)
โดยสรุปแล้ว UDR หรือ Unit Linked (ยูนิต ลิงค์) อาจเหมาะสำหรับคนที่ต้องการแบบประกันที่มีความยืดหยุ่นทั้งในเรื่องทุนประกันชีวิตและเบี้ยประกัน มีความโปร่งใสในเรื่องค่าใช้จ่าย มีความเข้าใจในการลงทุนในกองทุนรวมพอสมควร และต้องการได้รับผลตอบแทนคาดหวังที่สูงกว่าประกันชีวิตแบบดั้งเดิม
ตัวอย่างการวางแผนการเงินด้วย Unit Linked (ยูนิต ลิงค์)
กราฟแสดงผลประโยชน์ ของตัวอย่างที่ 1
เพศหญิง อายุ 35 ปี โสด วางแผนชำระเบี้ยปีละ 50,000 บาท (เดือนละ 4,166 บาท) 20 ปี เพื่อหยุดชำระเบี้ยตอนเกษียณที่อายุ 55 ปี คิดเป็นเบี้ยสะสมที่ชำระไป 1,000,000 บาท และได้รับมูลค่ารับซื้อหน่วยลงทุนไว้ใช้หลังเกษียณประมาณ 1,591,712 บาท เมื่อลูกค้าเลือกรับความเสี่ยงที่จะได้รับผลตอบแทน 5% เพื่อให้ชนะอัตราเงินเฟ้อ หากเกิดเหตุไม่คาดฝัน จะได้รับผลประโยชน์กรณีเสียชีวิตให้กับครอบครัวประมาณ 2,091,712 บาท
กราฟแสดงผลประโยชน์ ของตัวอย่างที่ 2
กราฟแสดงผลประโยชน์ ของตัวอย่างที่ 3
ชำระเบี้ยปีละ 79,479 บาท (เดือนละ 6,623 บาท) นาน 26 ปี จนกว่าจะเกษียณอายุที่ 60 ปี เมื่อหยุดชำระเบี้ยแล้วยังได้รับความคุ้มครองสุขภาพวงเงิน 5 ล้านบาทไปจนถึงอายุ 90 ปี คือ ได้ประกันสุขภาพฟรีนานถึง 30 ปี
หลักเกณฑ์การลดหย่อนภาษีของ Unit Linked
สำหรับ Unit Linked เงินที่สามารถนำมาคำนวณลดหย่อนภาษีได้คือ ส่วนของเบี้ยประกันชีวิตพื้นฐาน (Protection Premium) ซึ่งเป็นจำนวนเงินที่จ่ายเพื่อความคุ้มครองชีวิตในกรมธรรม์ ไม่รวมถึงส่วนของการลงทุน (Investment Premium) ที่ผู้ถือกรมธรรม์เลือกใส่เพิ่มเข้าไปในพอร์ตการลงทุนของ Unit Linked
- เบี้ยประกันชีวิต ลดหย่อนภาษีได้ตามปกติ สูงสุดไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี
- เบี้ยประกันสุขภาพ (ถ้ามีเป็นส่วนเสริมในกรมธรรม์) สามารถลดหย่อนเพิ่มเติมได้ สูงสุดไม่เกิน 25,000 บาท แต่รวมกันกับเบี้ยประกันชีวิตแล้วต้องไม่เกิน 100,000 บาท
- การลงทุนเพิ่มเติม (Top-up Premium) หรือเงินที่ใส่เพิ่มเพื่อการลงทุน ไม่สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้
กราฟแสดงผลประโยชน์ ของตัวอย่างที่ 3
- เบี้ยประกันชีวิตพื้นฐาน: 50,000 บาท
- เบี้ยประกันสุขภาพ: 10,000 บาท
- การลงทุนเพิ่มเติม (Top-up): 20,000 บาท
ผลที่ลดหย่อนได้:
- เบี้ยประกันชีวิต + สุขภาพรวม = 60,000 บาท ลดหย่อนได้เต็มจำนวน
- Top-up Premium ไม่สามารถลดหย่อนได้
ข้อควรระวัง
- ตรวจสอบสัดส่วนเบี้ยในกรมธรรม์ เพราะบริษัทประกันแต่ละแห่งมีการแบ่งสัดส่วนเบี้ยที่แตกต่างกัน
- เก็บหลักฐานการชำระเบี้ยไว้ เพื่อใช้ในการยื่นลดหย่อนภาษี
รู้จัก AIA InvestPro
นอกจากการเป็นบริษัทประกันชีวิตอันดับหนึ่ง เอไอเอ ยังเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุน ด้วยทีมงานผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่มีประสบการณ์ด้านการลงทุนมาแล้วกว่า 1 ทศวรรษ และมีความรู้ครอบคลุมทุกด้านมากกว่า 250 คน จาก 18 ประเทศทั่วโลก บริการ AIA InvestPro คือการดูแลการลงทุนแบบครบวงจรที่ครอบคลุมทั้งการวางแผน วิเคราะห์ ปรับพอร์ต เพื่อโอกาสรับผลตอบแทนที่สูงขึ้น ให้คุณมั่นใจได้ว่าเงินทุกบาทที่คุณหามา จะได้รับการดูแลอย่างดีโดยมืออาชีพ ให้คุณใช้ชีวิตตามที่ต้องการ โดยมี AIA InvestPro ดูแลคุณตลอดเส้นทางการลงทุนไปสู่เป้าหมายการเงินที่ตั้งเอาไว้
AIA InvestPro ให้คุณเข้าถึงการลงทุนต่างประเทศอย่างมั่นใจเพราะมีพันธมิตรชั้นนำระดับโลก ได้แก่ BlackRock, Wellington Management, Baillie Gifford และ Capital Group ที่เข้าถึงข้อมูลการลงทุนได้รวดเร็วและเจาะลึกกว่าใคร มาช่วยคัดเลือกสินทรัพย์คุณภาพ และมาช่วยบริหารการลงทุนให้เอไอเอโดยเฉพาะ
AIA InvestPro ให้คุณเลือกลงทุนเพียงกองทุนเดียวจาก AIA Asset Allocation Funds 6 กองทุนที่ได้ออกแบบการลงทุนไว้เพื่อรองรับทุกระดับความเสี่ยงของลูกค้า คุณสามารถเลือกลงทุนได้ทั้งในและต่างประเทศ โดยเอไอเอทำการปรับพอร์ตให้คุณอัตโนมัติ ให้อุ่นใจได้ว่าพอร์ตของคุณอยู่ในสัดส่วนที่เหมาะสม
AIA Asset Allocation Funds
คุณจะต้องทำแบบประเมินความเสี่ยงก่อนที่จะเลือกประเภทกองทุน โดยระบบของเอไอเอจะนำคะแนนที่ได้มาจัดสรรกองทุนรวมที่เหมาะสมให้กับลูกค้าตามระดับความเสี่ยงที่สามารถรับได้
วางแผนการเงินฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย