วัยเริ่มทำงาน (21-30 ปี)
เป็นวัยที่เพิ่งเริ่มทำงาน เริ่มมีรายได้เป็นของตัวเอง เหมาะกับการเริ่มวางแผนการเงินเพื่ออนาคต เริ่มมีภาระค่าใช้จ่ายที่ต้องรับผิดชอบ และจะต้องเริ่มจ่ายภาษี จึงเหมาะกับประกันที่สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้ อย่างประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ที่มีระยะเวลาคุ้มครองยาวกว่า 10 ปี เบี้ยประกันไม่สูงมาก เหมาะกับช่วงทำงานตอนต้นที่รายได้ยังไม่มากนัก สอดคล้องกับรายรับ ซึ่งเงินที่จ่ายค่าเบี้ยประกันก็ไม่ได้สูญเปล่า จะได้รับเงินในส่วนของการออมทรัพย์คืนตามระยะเวลาที่กำหนดตามสัญญา ถือได้ว่าจ่ายเบี้ยครั้งเดียวได้ทั้งความคุ้มครอง ได้ลดหย่อนภาษี และได้สะสมทรัพย์ ช่วยสร้างวินัยในการเก็บเงินเพื่ออนาคตได้
ซึ่งถ้าหากมีรายได้เพิ่มขึ้น ก็เหมาะกับการทำประกันชีวิตที่ให้ความคุ้มครองระยะยาวเพิ่มเติม อย่างประกันชีวิตแบบตลอดชีพ ที่มีระยะเวลาที่กำหนดให้ชำระเบี้ยประกันชัดเจน แต่มีระยะเวลาคุ้มครองยาวนาน หากเริ่มทำตั้งแต่อายุยังน้อยก็จะได้เบี้ยประกันที่ค่อนข้างต่ำกว่าช่วงวัยอื่นด้วย
วัยสร้างครอบครัวและมีบุตร (31-45 ปี)
เป็นช่วงชีวิตที่หลายๆ คนเริ่มขยับขยายที่อยู่อาศัย และสร้างความมั่นคงให้กับครอบครัว ดังนั้นเราควรเตรียมพร้อมรับมือกับภาระที่กำลังจะเพิ่มมากขึ้นโดยมองหาหลักประกันให้กับคนในครอบครัว ประกันชีวิตที่เหมาะกับวัยนี้คือ ประกันชีวิตแบบตลอดชีพ หรือประกันชีวิตแบบชั่วระยะเวลาเพื่อปิดความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นกับหัวหน้าครอบครัว
นอกจากรูปแบบประกันชีวิตที่เหมาะสมแล้ว เราควรจะวางแผนความคุ้มครองให้ตรงกับความต้องการกับตัวเราเองอีกด้วย เช่น หากกำลังผ่อนบ้าน ประกันสินเชื่อที่อยู่อาศัยก็เป็นประกันชีวิตอีกประเภทหนึ่งที่น่าสนใจนะ เผื่อหากมีอะไรเกิดขึ้น คนในครอบครัวของเราก็จะยังคงมีที่อยู่อาศัยต่อไป หรือการซื้อประกันชีวิตแนบสัญญาชดเชยรายได้นี่ก็น่าสนใจ เพราะถ้าเกิดเหตุไม่คาดฝันที่ทำให้หัวหน้าครอบครัวไม่สามารถทำงานหารายได้ สิ่งเหล่านี้จะมาลดภาระค่าใช้จ่ายต่างๆ ในช่วงเวลานั้น โดยพิจารณาวงเงินคุ้มครองจากระดับค่าใช้จ่ายของคนในครอบครัวเป็นหลัก
นอกจากประกันชีวิตที่ให้ความคุ้มครองสูงที่กล่าวไปข้างต้น การพ่วงประกันสุขภาพไปกับกรมธรรม์ประกันชีวิตที่ให้ความคุ้มครองยาวอาจเป็นอีกทางหนึ่งนะ เนื่องจากในวัยนี้ (โดยเฉพาะอายุ 31-45 ปี) อาจจะยังไม่ได้มีความเสี่ยงต่อโรค หรือมีประวัติการเจ็บป่วยมากนัก ทำให้เบี้ยประกันจะยังไม่สูง
หรือเลือกประกันชีวิตแบบควบการลงทุน (Unit Linked) ซึ่งมีข้อดีคือสามารถเลือกความคุ้มครองและการลงทุนได้ รวมถึงการปรับเปลี่ยนความคุ้มครองและการลงทุนให้เหมาะกับสถานการณ์เศรษฐกิจในขณะนั้น เป็นการช่วยวางแผนทางการเงิน เพิ่มโอกาสสร้างเงินออมให้ครอบครัว และยังช่วยในการวางแผนอนาคต เช่น การศึกษาบุตร
ประกันอีกแบบที่น่าสนใจสำหรับคนในวัยนี้คือประกันชีวิตแบบบำนาญซึ่งเป็นแบบประกันเพื่อเราจะได้มีรายได้อย่างต่อเนื่องเมื่อเข้าสู่วัยเกษียณ และให้ประโยชน์ทางภาษีอีกด้วย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ควรดูถึงความคุ้มค่าของประกันบำนาญเทียบกับการลงทุนเพื่อการเกษียณประเภทอื่นๆ เพราะหลักของประกันชีวิตแบบบำนาญไม่ใช่ทั้งความคุ้มครองหรือผลตอบแทนที่สูง แต่เป็นการการันตีเงินที่จะได้หลังเกษียณเท่านั้น
วัยทำงานตอนปลาย จนถึงเกษียณ 46-60 ปี
ช่วงวัยที่เปลี่ยนจากเงินเดือนมาเป็นเงินเก็บ มีการวางแผนเงินเพื่อเอาไว้ใช้จ่ายยามเกษียณที่รายได้ไม่เหมือนเดิม เหมาะกับการทำประกันที่ช่วยให้มีเงินใช้จ่ายเพียงพอและไม่เดือดร้อน อย่างประกันชีวิตแบบบำนาญหรือแบบสะสมทรัพย์ ที่จะให้ผลตอบแทนไว้ใช้จ่ายในช่วงที่เกษียณพอดี
และอีกประกันที่สำคัญและจำเป็นกับคนวัยนี้อย่างมากคือประกันสุขภาพ เพราะเมื่ออายุมากขึ้น ก็จะมีความเสี่ยงเรื่องสุขภาพและโรคภัยไข้เจ็บมากขึ้นด้วย การทำประกันชีวิตที่ความคุ้มครองไม่สูงมากนักพ่วงประกันสุขภาพ จึงเป็นทางเลือกหนึ่งในการป้องกันความเสี่ยงนั้น ควรเลือกประกันสุขภาพที่ให้ความคุ้มครองทั้งค่ารักษาพยาบาล โรคร้ายแรง และอุบัติเหตุ พร้อมรับเงินชดเชยรายวันระหว่างพักรักษาตัว จะได้ไม่ต้องเอาเงินที่เก็บทั้งชีวิตมาจ่ายค่ารักษาตัวมหาศาล ซึ่งเบี้ยประกันก็จะค่อนข้างสูง แต่ให้ความคุ้มครองแบบครอบคลุม ช่วยลดความกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายสุขภาพได้มาก
ประกันแต่ละแบบก็มีข้อดี จุดเด่น และรายละเอียดที่ตอบโจทย์แตกต่างกันไป นอกจากการเลือกซื้อประกันตามช่วงวัยแล้ว ควรคำนึงถึงปัจจัยอื่นด้วย เช่น รายได้ สุขภาพร่างกาย ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต ความต้องการ เป้าหมาย ที่สำคัญก่อนจะซื้อประกันควรทำความเข้าใจให้ดี ศึกษารายละเอียดให้ครบถ้วน จะได้เลือกซื้อประกันได้มั่นใจ เหมาะสมกับตัวเองที่สุด รวมถึงได้รับผลประโยชน์และความคุ้มครองอย่างเต็มที่
วัยเริ่มทำงาน (21-30 ปี)
รายละเอียดของประกันแต่ละประเภท
ประกันชีวิตในรูปแบบบำนาญที่ลดหย่อนภาษีได้ พร้อมการันตีเงินคืนบำนาญ ช่วยคลายกังวลกับค่าใช้จ่ายในวัยเกษียณ เน้นการคุ้มครองรายได้หลังเกษียณเป็นหลัก โดยบริษัทผู้รับประกันภัยจะเริ่มจ่ายเงินคืนตามกรมธรรม์ให้ตั้งแต่เมื่อถึงอายุเกษียณ (ครบอายุ 55 ปี หรือ 60 ปี) และจะมีการจ่ายต่อเนื่องไปเรื่อย ๆ เป็นงวด ๆ ตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ในกรมธรรม์จนกว่าจะครบกำหนดสัญญา ในส่วนของประโยชน์จากการลดหย่อนภาษี สามารถลดหย่อนได้สูงสุด 15% ของรายได้ แต่ไม่เกิน 200,000 บาท เมื่อรวมกับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพที่หักจากบริษัทของตนเองไปแล้ว กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ RMF และกองทุนรวมเพื่อการออม SSF ต้องไม่เกิน 500,000 บาท หากไม่ได้ใช้สิทธิ์ในประกันชีวิตแบบทั่วไป สามารถลดหย่อนได้สูงสุด 300,000 บาท โดยแบ่งเบี้ยประกันชีวิตแบบบำนาญไปใช้สิทธิ์ในส่วนของเบี้ยประกันชีวิตแบบทั่วไปให้ครบ 100,000 บาท
วัยสร้างครอบครัวและมีบุตร (31-45 ปี)
ประกันชีวิตแนบสัญญาชดเชยรายได้ในวันที่หัวหน้าครอบครัวไม่สามารถทำงานได้เมื่อเจ็บป่วย – AIA HB Extra
คลายกังวลเรื่องการขาดรายได้ในวันที่คุณเจ็บป่วยหรือบาดเจ็บจากอุบัติเหตุจนต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล รับค่าชดเชยรายวัน รวมทั้งกรณี Day Case
สรุปรายละเอียดของ ประกันชดเชยรายได้แบบพิเศษ AIA HB Extra
- ค่าชดเชยรายวันเมื่อเจ็บป่วย หรือ บาดเจ็บจากอุบัติเหตุ
- เข้าพักรักษาตัวเป็นผู้ป่วยในของโรงพยาบาล รวมทั้งกรณี DAY CASE
- กรณีนอนรักษาตัวเป็นผู้ป่วยในห้อง ICU รับเพิ่มเป็น 3 เท่า
- เข้าพักรักษาตัวเป็นผู้ป่วยในห้องผู้ป่วยหนัก รับเงินชดเชยรายวันเพิ่มเป็น 3 เท่า ของจำนวนเงินเอาประกันภัย
- ค่าชดเชย 5 เท่าของจำนวนเงินเอาประกันภัย กรณีเข้ารับการผ่าตัด โดยการวางยาสลบ หรือฉีดยาเข้าไขสันหลังโดยวิสัญญีแพทย์
- ค่าชดเชย 25 เท่า ของจำนวนเงินเอาประกันภัย กรณีเข้าพักรักษาตัวเป็นผู้ป่วยใน เนื่องจากโรคร้ายแรงเฉียบพลัน 13 โรค*
- ค่าใช้จ่ายหมวดยากลับบ้าน 1 เท่า ของจำนวนเงินเอาประกันภัย หลังการเข้าพักรักษาตัวเป็นผู้ป่วยในของโรงพยาบาล รวมกรณี DAY CASE ในกรณีมีค่าใช้จ่ายหมวดยากลับบ้าน
- ค่าชดเชย 10 เท่า ของจำนวนเงินเอาประกันภัยในกรณีเสียชีวิต
ตัวอย่างการคำนวณเบี้ย ประกันชดเชยรายได้แบบพิเศษ AIA HB EXTRA
- ลูกค้าเพศชาย อายุ 40 ปี ค่าเบี้ยรวม 6,900* บาท ต่อปี
- แผนรักษาตัวเป็นผู้ป่วยในรับเงินชดเชย 3,000 บาท/วัน
- เจ็บป่วยหรือบาดเจ็บ และเข้าพักรักษาตัวเป็นผู้ป่วยใน ก็ได้รับเงินชดเชย
- ผู้ป่วย day case ก็ได้รับเงินชดเชย
- รับค่าชดเชย 3 เท่า หากรักษาตัวในห้อง ICU หรือสูงสุด 9,000 บาท/วัน
- รับค่าชดเชย 5 เท่า กรณีเข้ารับการผ่าตัด หรือสูงสุด 15,000 บาท
- รับค่าชดเชย 25 เท่า กรณีเข้าพักรักษาตัวเป็นผู้ป่วยใน เนื่องจากโรคร้ายแรงเฉียบพลัน 13 โรค หรือสูงสุด 75,000 บาท
- รับค่าชดเชย 1 เท่า สำหรับยากลับบ้าน หรือสูงสุด 3,000 บาท/ครั้ง หลังเข้าพักรักษาตัวเป็นผู้ป่วยใน
**การชำระเงิน : ชำระ 1 เดือน ,3 เดือน , 6 เดือน , รายปี
**ช่องทางการชำระ บัตรเครดิต หรือสแกนผ่าน QR Code ผ่านแอปหักผ่านบัญชี
*ค่าเบี้ยยังไม่รวมประกันชีวิตหลัก การทำประกันชดเชยรายได้ ต้องทำควบคู่กับประกันชีวิตหลัก
ผลประโยชน์ Day Case สําหรับผู้เอาประกันชดเชยรายได้แบบพิเศษ AIA HB EXTRA
- การสลายนิ่ว (ESWL : Extracorporeal Shock Wave Lithotripsy)
- การตรวจเส้นเลือดหัวใจโดยการฉีดสี (Coronary Angiogram / Cardiac Catheterization)
- การผ่าตัดต้อกระจก (Extra Capsular Cataract Extraction with Intra Ocular Lens)
- การผ่าตัดโดยการส่องกล้อง (Laparoscopic) ทุกชนิด
- การตรวจโดยการส่องกล้อง (Endoscope) ทุกชนิด
- การผ่าตัด หรือเจาะไซนัส (Sinus Operations)
- การตัดก้อนเนื้อที่เต้านม (Excision Breast Mass)
- การตัดชิ้นเนื้อจากกระดูก (Bone Biopsy)
- การตัด (Amputation) นิ้วมือหรือนิ้วเท้า
- การเจาะตับ (Liver Puncture / Liver Aspiration)
- การเจาะไขกระดูก (Bone Marrow Aspiration)
- การเจาะช่องเยื่อหุ้มไขสันหลัง (Lumbar Puncture)
- การเจาะช่องเยื่อหุ้มปอด (Thoracentesis / Pleuracentesis / Thoracic Aspiration / Thoracic Paracentesis)
- การเจาะช่องเยื่อบุช่องท้อง (Abdominal Paracentesis / Abdominal Tapping)
- การขูดมดลูก (Curettage, Dilatation & Curettage, Fractional Curettage)
- การตัดชิ้นเนื้อจากปากมดลูก (Colposcope, Loop diathermy)
- การรักษา Bartholin’s Cyst (Marsupialization of Bartholin’s Cyst)
- การรักษาโรคด้วยรังสีแกมม่า (Gamma knife)
13 โรคร้ายแรงเฉียบพลันที่ได้รับความคุ้มครองภายใต้ประกันชดเชยรายได้แบบพิเศษ AIA HB EXTRA
- กล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลันจากการขาดเลือด (Acute Heart Attack)
- โรคหลอดเลือดสมองแตกหรืออุดตัน (Major Stroke)
- การผ่าตัดเส้นเลือดเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจ (Coronary Artery By-Pass Surgery)
- การผ่าตัดเปลี่ยนอวัยวะหรือ ปลูกถ่ายไขกระดูก (Major Organs Transplantation or Bone Marrow Transplantation)
- โรคไวรัสตับอักเสบขั้นรุนแรง (Fulminant Viral Hepatitis)
- โรคเยื่อหุ้มสมองและไขสันหลังอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย (Bacterial Meningitis)
- แผลไหม้ฉกรรจ์ (Major Burn)
- ภาวะโคม่า (Coma)
- สมองอักเสบจากเชื้อไวรัส (Viral Encephalitis)
- การผ่าตัดลิ้นหัวใจโดยวิธีการเปิดหัวใจ (Open Heart Surgery for the Heart Valve)
- การบาดเจ็บที่ศีรษะอย่างรุนแรง (Major Head Trauma)
- การผ่าตัดเส้นเลือดแดงใหญ่ เอออร์ต้า (Surgery to Aorta)
- โรคคาวาซากิที่ทําให้เกิดโรคแทรกซ้อนของหัวใจ (Kawasaki Disease with Heart Complications)
ข้อยกเว้น และระยะเวลาที่ไม่คุ้มครอง ตามประกันชดเชยรายได้แบบพิเศษ AIA HB EXTRA
บริษัทจะไม่จ่ายผลประโยชน์สําหรับการเข้าพักรักษาตัวที่เกิดจากการบาดเจ็บหรือเจ็บป่วย (รวมทั้งโรคแทรกซ้อน) อาการ หรือภาวะความผิดปกติที่เกิดจาก
- โรคเรื้อรัง การเจ็บป่วยหรือการบาดเจ็บที่ยังไม่ได้รักษาให้หายก่อนวันเริ่มมีผลคุ้มครองตามสัญญาเพิ่มเติม การตรวจรักษาภาวะที่เป็นมาแต่กําเนิด (Congenital) หรือปัญหาด้านพัฒนาการ หรือโรคทางพันธุกรรม
- การตรวจรักษาหรือการผ่าตัดเพื่อเสริมสวย หรือการแก้ไขปัญหาผิวพรรณ สิว ฝ้า กระ รังแค ผมร่วง หรือการควบคุมน้ําหนักตัว หรือการผ่าตัดอันมีลักษณะเลือกได้ เว้นแต่เป็นการตกแต่งบาดแผลอันเนื่อง มาจากอุบัติเหตุที่ได้รับความคุ้มครอง
- การตั้งครรภ์ แท้งบุตร ทําแท้ง การคลอดบุตร โรคแทรกซ้อนจากการตั้งครรภ์ การแก้ไขปัญหาการมีบุตรยาก (รวมถึงการสืบวิเคราะห์และการรักษา) การทําหมันหรือการคุมกาเนิด
- การตรวจสุขภาพทั่วไป การร้องขอเข้าอยู่รักษาตัวในโรงพยาบาล หรือร้องขอการผ่าตัด การพักฟื้น หรือการพัก เพื่อการฟื้นฟูหรือการรักษาโดยวิธีให้พักอยู่เฉยๆ การตรวจวิเคราะห์เพื่อหาสาเหตุใดๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการเข้ารักษาในโรงพยาบาล การตรวจวินิจฉัยการบาดเจ็บหรือการเจ็บป่วย การรักษาหรือตรวจวิเคราะห์เพื่อ สาเหตุ ซึ่งไม่ใช่ความจําเป็นทางการแพทย์ หรือไม่เป็นมาตรฐานทางการแพทย์ และค่าพยาบาลเฝ้าไข้พิเศษ
- การตรวจรักษาความผิดปกติเกี่ยวกับสายตา การทําเลสิค ค่าใช้จ่ายสําหรับอุปกรณ์เพื่อช่วยในการมองเห็น
หรือการรักษาความผิดปกติของการมองเห็น - การตรวจรักษา หรือผ่าตัดเกี่ยวกับฟันหรือเหงือก การทําฟันปลอม การครอบฟัน การรักษารากฟัน อุดฟัน การจัดฟัน ขูดหินปูน ถอนฟัน การใส่รากฟันเทียม ยกเว้นในกรณีจําเป็นอันเนื่องมาจาก การบาดเจ็บ โดยอุบัติเหตุ ทั้งนี้ไม่รวมค่าฟันปลอมและการครอบฟันและการรักษารากฟันหรือใส่รากเทียม
- การตรวจรักษาที่ไม่ใช่แผนปัจจุบัน รวมถึงแพทย์ทางเลือก
ระยะเวลาที่ไม่คุ้มครอง (Waiting Period)
บริษัทจะไม่จ่ายผลประโยชน์ตามสัญญาเพิ่มเติมนี้ หากการเจ็บป่วยเกิดขึ้นในระยะเวลาต่อไปนี้
- ภายใน 30 วัน นับตั้งแต่วันเริ่มมีผลคุ้มครองตามสัญญาเพิ่มเติม หรือหากมีการต่ออายุกรณีสัญญาเพิ่มเติม สิ้นผลบังคับ (Reinstatement) ให้นับตั้งแต่วันเริ่มมีผลคุ้มครองตามการต่ออายุครั้งสุดท้าย แล้วแต่กรณีใด จะเกิดขึ้นภายหลัง สําหรับการเจ็บป่วยทั่วไป
- ภายใน 120 วัน นับตั้งแต่วันเริ่มมีผลคุ้มครองตามสัญญาเพิ่มเติม หรือหากมีการต่ออายุกรณีสัญญาเพิ่มเติม สิ้นผลบังคับ (Reinstatement) ให้นับตั้งแต่วันเริ่มมีผลคุ้มครองตามการต่ออายุครั้งสุดท้าย แล้วแต่กรณีใด จะเกิดขึ้นภายหลัง สําหรับการเจ็บป่วย 4 โรค (ไส้เลื่อนทุกชนิด, ต้อเนื้อ หรือต้อกระจก, การตัดทอนซิล หรือ อดีนอยด์, เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่)
- บริษัทจะไม่จ่ายผลประโยชน์กรณีเข้ารับการรักษาตัวเป็นผู้ป่วยในเนื่องจากโรคร้ายแรงเฉียบพลันตามคํานิยาม ที่กําหนดไว้ในสัญญาเพิ่มเติมนี้ สําหรับการเจ็บป่วย หรือความผิดปกติที่เกี่ยวข้องกับโรคร้ายแรงเฉียบพลัน ที่ได้รับความคุ้มครองภายใต้สัญญาเพิ่มเติมนี้ที่เกิดขึ้นภายในระยะเวลา 60 วัน นับตั้งแต่วันเริ่มมีผลคุ้มครอง ตามสัญญาเพิ่มเติม หรือหากมีการต่ออายุกรณีสัญญาเพิ่มเติมสิ้นผลบังคับ(Reinstatement) ให้นับ ตั้งแต่วันเริ่มมีผลคุ้มครองตามการต่ออายุครั้งสุดท้าย แล้วแต่กรณีใดจะเกิดขึ้นภายหลัง
ประกันสุขภาพพ่วงกับกรมธรรม์ประกันชีวิตที่ให้ความคุ้มครองยาว
(หากไม่ได้มีความเสี่ยงต่อโรค หรือมีประวัติการเจ็บป่วยมากนัก เบี้ยประกันจะยังไม่สูง) – AIA Health Happy
จุดเด่นของแผนประกันสุขภาพเหมาจ่าย AIA Health Happy ประกันสุขภาพเหมา เบิ้ล คุ้มที่สุด
- ผลประโยชน์ค่ารักษาพยาบาลแบบเหมาจ่าย เหมาะกับผู้ที่ต้องการมีประกันสุขภาพกับบริษัทประกันที่มั่นคง ต้องการมีประกันสุขภาพครอบคลุมถึงค่ารักษาพยาบาลที่จะปรับสูงขึ้นในอนาคต
- ไม่จำกัดวงเงินต่อการเข้าพักรักษาเป็นผู้ป่วยในครั้งใดครั้งหนึ่ง
- กรณีป่วยเป็นโรคร้ายแรง เพิ่มผลประโยชน์สูงสุดให้เป็น 2 เท่า ในปีที่ตรวจพบ และต่อเนื่องรวม 4 ปีกรมธรรม์
- ให้ค่ารักษากรณีไม่ได้เข้าพักเป็นผู้ป่วยใน สำหรับการรักษาที่มีค่ารักษาพยาบาลสูงได้แก่
- อุบัติเหตุภายใน 24 ชั่วโมง
- ค่าตรวจเพื่อรักษา ก่อน/หลัง การรักษาเป็นผู้ป่วยใน 30 วัน (เช่น X-Ray, ฉีดสี, MRI)
- Minor Surgery / Day case (เช่น ผ่าตัดเล็ก, ตรวจชิ้นเนื้อ)
- ล้างไต
- รักษาโรคมะเร็ง รวมถึงการรักษาด้วย Targeted Therapy
ประกันชีวิตแบบควบการลงทุน (Unit Linked) สามารถเลือกความคุ้มครองและการลงทุนได้
เพิ่มโอกาสสร้างเงินออมให้ครอบครัว – AIA Issara Plus (Unit Linked)
ประกันชีวิตควบการลงทุน หรือที่ส่วนใหญ่เรียกว่า ประกันชีวิตแบบยูนิต ลิงค์ คือ การประกันชีวิตที่ให้ทั้งความคุ้มครองชีวิตและการลงทุนในกองทุนรวม ซึ่งไม่มีการรับประกันมูลค่ากรมธรรม์ เนื่องจากมูลค่ากรมธรรม์ขึ้นอยู่กับมูลค่าหน่วยลงทุน โดยอาจสูงขึ้นหรือต่ำลงตามผลประกอบการของกองทุนรวม
เบี้ยประกันภัยของกรมธรรม์ Unit Linked แบ่งเป็น 3 ส่วนดังนี้
- ส่วนที่ 1 เป็นค่าความคุ้มครองตามที่กรมธรรม์ประกันชีวิตกำหนด โดยผู้ขอเอาประกันภัยสามารถเลือกสัดส่วนความคุ้มครองได้ตามความต้องการ ซึ่งบริษัทประกันชีวิตจะนำเงินส่วนนี้ไปบริหารเอง และบริษัทจะเป็นผู้รับความเสี่ยงจากการนำเงินในส่วนนี้ไปลงทุนในหลักทรัพย์และทรัพย์สินประเภทต่างๆ
- ส่วนที่ 2 เป็นค่าใช้จ่ายต่างๆ ตามกรมธรรม์ ที่บริษัทเรียกเก็บ เพื่อเป็นค่าดำเนินการ ค่าดูแลรักษากรมธรรม์ และค่าบริการในการลงทุน ซึ่งจะกำหนดแตกต่างกันไปแล้วแต่การออกแบบผลิตภัณฑ์ของแต่ละบริษัท
- ส่วนที่ 3 เป็นส่วนที่จัดสรรเข้าไปเป็นการลงทุนตามสัดส่วนที่ผู้ขอเอาประกันภัยเลือก ซึ่งบริษัทประกันชีวิตจะนำไปซื้อหน่วยลงทุนของกองทุนรวมตามคำสั่งของผู้เอาประกันภัย โดยบริษัทที่รับจัดการเงินดังกล่าวจะออกหน่วยลงทุนให้แก่ผู้เอาประกันภัย โดยบริษัทประกันชีวิตเป็นผู้ดูแลระบบบัญชีกรมธรรม์ของผู้เอาประกันภัย
ความพิเศษของประกันชีวิตควบการลงทุนคือ สามารถถอนจากมูลค่าบัญชีกรมธรรม์บางส่วน โดยยังได้รับความคุ้มครองอย่างต่อเนื่อง ตราบใดที่มูลค่าบัญชีกรมธรรม์ที่คงเหลือเพียงพอในการหักค่าใช้จ่ายต่างๆ ภายใต้กรมธรรม์และสามารถลดหย่อนภาษีได้เฉพาะในส่วนของการประกันชีวิต (ไม่รวมส่วนการลงทุน) ได้ไม่เกิน 100,000 บาท
จุดเด่น
- คุ้มครองชีวิตวงเงินสูง และ มีความคุ้มครองกรณีทุพพลภาพ (TPD)
- ยืดหยุ่น ปรับเปลี่ยนความคุ้มครอง และ หยุดพักชำระเบี้ยได้ กำหนดได้ด้วยตนเอง
- มีระบบช่วยบริหารพอร์ตกองทุนรวม และกองทุนรวมอยู่ภายใต้การบริหารโดย บลจ.เอไอเอ
- ค่าธรรมเนียมการประกันชีวิตสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้
- สามารถแนบสัญญาเพิ่มเติมประกันสุขภาพ UDR ได้
- ใช้คุ้มครองชีวิตในช่วงวัยทำงาน (คุ้มครองรายได้ให้คนข้างหลัง) ซึ่งเป็นช่วงอายุที่มีค่าธรรมเนียมการประกันชีวิต(COI) ที่ไม่แพง จนเมื่อถึงอายุเกษียณ (หมดห่วงแล้ว) แนะนำให้ปรับลดทุนเอาประกันชีวิตลง เพื่อประหยัดค่าธรรมเนียมการประกันชีวิต(COI) ที่สูงขึ้นตามอายุที่มากขึ้น ซึ่งจะช่วยให้พอร์ตการลงทุนเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง
แผนนี้เหมาะกับใคร?
- ผู้ที่อายุน้อยกว่า 40 ปี สามารถชำระเบี้ยประกันได้ต่อเนื่องเป็นเวลา 15 ปี ขึ้นไป
- ผู้ที่ต้องการสร้างหลักประกันชีวิตให้ครอบครัว และสร้างโอกาสรับผลตอบแทนจากการลงทุน โดยมีระบบช่วยดูแล
- ผู้ที่ต้องการมีทุนประกันชีวิตสูง และ ประหยัดค่าเบี้ยประกัน
- หัวหน้าครอบครัว หรือ ผู้ที่มีภาระ ต้องดูแลค่าใช้จ่ายของครอบครัว
ประกันชีวิตแบบบำนาญ การันตีรายได้ต่อเนื่องเมื่อเข้าสู่วัยเกษียณ และลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 200,000 บาท –
AIA Annuity Fix
จุดเด่น
- การันตีผลตอบแทนที่มั่นคง แน่นอน ความเสี่ยงต่ำ ให้ผลตอบแทนดีกว่าดอกเบี้ยเงินฝาก
- ใช้วางแผนเกษียณได้อย่างดี
- รับเงินบำนาญแน่นอน ตั้งแต่ อายุ 60 – 85 ปี
- เบี้ยประกันลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 200,000 บาท